ธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหรือสกินแคร์ (Skin care) ในประเทศไทย นับเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีความโดดเด่นเนื่องจากมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉลี่ย 7-10% ต่อปี ไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ในภาวะที่เศรษฐกิจซบเซาและเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ดังเช่นช่วงปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ดูแลผิวยังสามารถเติบโตเพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเปรียบเทียบกับหลายๆอุตสาหกรรมในประเทศไทยที่เติบโตติดลบหรือหยุดชะงัก เช่น ธุรกิจการท่องเที่ยว เป็นต้น
ในปี 2563 อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในประเทศไทย มีมูลค่าตลาดรวม 82,817 ล้านบาท ถึงแม้ว่าปัจจัยเชิงลบที่เกิดจากการระบาดของโรคโควิด-19 เช่น การปิดห้างสรรพสินค้า ทำให้ธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ไม่สามารถสร้างยอดขายจากช่องทาง offline ได้ แต่ยังมีปัจจัยเชิงบวกจำนวนมาที่สนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ เช่น เทรนด์ของโลกและเทรนด์ความงามที่กำลังเปลี่ยนไป ในเรื่องการดูแลตัวเองและใส่ใจสุขภาพ ไลฟ์สไตล์การรักษาสุขภาพ รูปร่าง และ หน้าตามากขึ้น ในทุกเพศและทุกวัย ทำให้ธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลผิวได้ประโยชน์จากเทรนด์ดังกล่าว ยิ่งไปกว่านั้น การที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอาง ที่มีส่วนผสมของสารสกัดพรีเมี่ยม ปลอดภัย และมีเทคโนโลยีการชะลอและลดเลือนริ้วรอย ลดรอยกระ จุดด่างดำ ผิวกระจ่างใส ต่างได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกับการเติบโตของประชากรผู้สูงอายุที่มีเพิ่มขึ้น และในอนาคตจะเป็นสังคมผู้สูงอายุ ท้ายที่สุดบทบาทของดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในชีวิตประจำวันส่งผลให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค จากการจับจ่ายใช้สอยผ่านช่องทาง offline เเป็นการช้อปปิ้งออนไลน์ สิ่งเหล่านี้ล้วนสนับสนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมนี้เช่นกัน ทาง SBCS เล็งเห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมนี้ และพร้อมให้บริการแก่ผู้ประกอบการที่สนใจประกอบธุรกิจเครื่องสำอางและความงามในประเทศไทย เพื่อช่วยให้ท่านผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจสามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิผลตามเป้าหมายที่วางไว้ ท้ายที่สุด เราพร้อมที่จะให้บริการช่วยจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) แก่ผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจทั้งจากในประเทศไทยและต่างประเทศ ที่มีศักยภาพซึ่งมีความสนใจในการลงทุนร่วมกัน เพื่อให้ธุรกิจของท่านเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน