“April Fool’s Day Marketing” กลยุทธ์การตลาดวัน April Fool’s ที่ไม่ได้สร้างเพียงเสียงหัวเราะ

วัน April Fool’s หรือที่สามารถแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า วันเมษาหน้าโง่ ตรงกับวันที่ 1 เมษายนของทุก ๆ ปีนั้นนับเป็นหนึ่งในวันพิเศษที่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในทั่วทุกมุมโลก โดยวัน April Fool’s มีที่มาจากการประกาศเปลี่ยนแปลงวันปีใหม่ของศาสนาคริสต์ในช่วงยุคศตวรรษที่ 16  ณ ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเดิมทีคือวันที่ 1 เมษายนให้เป็นวันที่ 1 มกราคม หากแต่การประกาศเปลี่ยนแปลงดังกล่าวถูกกระจายอยู่ภายในกลุ่มคนเมืองและไปไม่ถึงกลุ่มคนในชานเมือง จนทำให้เกิดการโกหกเพื่อหยอกล้อความไม่รู้ทันการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวระหว่างผู้คนบางกลุ่ม แล้วจึงค่อยมาเฉลยกับกลุ่มคนเหล่านั้นว่ามีการเปลี่ยนแปลงวันปีใหม่ไปแล้ว สืบเนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าว ในปัจจุบันวัน April Fool’s นั้นเป็นที่รู้จักในฐานะของวันพิเศษที่ผู้คนสามารถแสดงความขี้เล่นผ่านการโกหกและหยอกล้อกันอย่างมีสีสัน แล้วค่อยทำการเฉลยในตอนท้าย โดยมีกฎเกณฑ์ที่รู้กันโดยสากลว่าต้องอยู่ภายในขอบเขตของการไม่สร้างความเดือดร้อนหรือทำร้ายผู้อื่น

อะไรคือการตลาดวัน April Fool’s และเหตุใดแบรนด์ต่าง ๆ จึงหันมาทำการตลาดวัน April Fool’s ?

การตลาดวัน April Fool’s คือการที่แบรนด์ต่าง ๆ มักออกมาเปิดตัวสินค้าในวันที่ 1 เมษายน โดยสินค้าดังกล่าวมักมีความแปลกใหม่หรือไม่น่าเชื่อจนทำให้สร้างเสียงหัวเราะและความประหลาดใจท่ามกลางสื่อโซเชียลมีเดีย และออกมาเฉลยในภายหลังว่าสินค้านั้นเป็นส่วนหนึ่งของวัน April Fool’s เพียงเท่านั้นและจะไม่มีการผลิตจริง อาทิ ซอสมิลค์เชคของแมคโดนัล และซอสครีมของโอริโอโดยไฮนซ์ ที่เป็นความร่วมมือในการสร้างเสียงหัวเราะของโอริโอและไฮนซ์

ถึงแม้วัน April Fool’s จะไม่ได้มีการเฉลิมฉลองที่มีพิธีรีตรอง หรือการจัดเตรียมสิ่งต่าง ๆ มากมายเสมือนกับอีกหลาย ๆ วันพิเศษ แต่แท้จริงแล้วการตลาดวัน April Fool’s ส่งผลให้เกิดเสียงหัวเราะ อันสอดคล้องกับทฤษฎี Humor Effect ที่พิสูจน์แล้วว่าการสร้างเสียงหัวเราะในรูปแบบต่าง ๆ นั้น  สามารถที่จะทำให้ผู้คนมีความรู้สึกดี ๆ และจดจำสิ่งที่พบเห็นไปได้อีกยาวนาน วัน April Fool’s จึงเป็นอีกหนึ่งวันพิเศษที่แบรนด์ต่าง ๆ เล็งเห็นว่าเป็นโอกาสสำคัญในการทำการตลาดเพื่อเข้าถึงและสร้างความใกล้ชิดกับผู้บริโภคได้อย่างแยบยล พร้อมทั้งยังสามารถที่จะทดสอบเสียงตอบรับต่อการใช้สื่อของแบรนด์และการเปิดตัวสินค้าของแต่ละแบรนด์เลยก็ว่าได้

ตัวอย่างการตลาดวัน April Fool’s ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในอดีต

หนึ่งในการตลาดวัน April Fool’s ที่เป็นที่พูดถึงมากที่สุดจนถึงปัจจุบันคือ การทำการตลาดวัน April Fool’s ระหว่างนักธุรกิจและอีกหนึ่งธุรกิจยักษ์ใหญ่อย่าง “Mark Zuckerberg และ H&M” ในปี 2016 ที่ทั้ง Mark Zuckerberg และ H&M ได้มีประกาศว่าจะออกคอลเลคชั่นเสื้อผ้าที่ Mark Zuckerberg ชอบใส่อยู่เป็นประจำภายใต้แบรนด์ H&M ซึ่งก็คือเสื้อสีเทาและกางเกงยีนส์ (http://markforhm.com/) ที่เป็นสไตล์การแต่งตัวที่ Mark Zuckerberg เองก็เคยได้ออกมาเปิดเผยให้สาธารณะชนได้ฟังอยู่เช่นกันว่าเป็นชุดเก่งของเขา ทำให้คอลเลคชั่นดังกล่าวได้รับความสนใจจากสื่อและผู้บริโภคเป็นอย่างมากจนน่าประหลาดใจ อย่างไรก็ดี ในไม่กี่ชั่วโมงถัดมาทั้งทาง Mark Zuckerberg และ H&M ก็ได้มีการออกมาแถลงว่าทั้งหมดเป็นเพียงความต้องการที่จะสร้างเสียงหัวเราะให้ผู้บริโภคและผู้คนที่ได้พบเห็น และจะไม่มีการผลิตสินค้าดังกล่าวขึ้นมาวางขาย ซึ่งนับว่าน่าเสียดายอยู่ไม่น้อย เพราะหากวิเคราะห์จากเสียงตอบรับของสื่อและผู้บริโภค สินค้าดังกล่าวคงสามารถขายได้เป็นจำนวนมากอย่างแน่แท้

นอกจากการเป็นช่องทางเพื่อที่จะดึงดูดผู้บริโภคผ่านการสร้างเสียงหัวเราะและสร้างภาพจำของแบรนด์ด้วยสินค้าที่แปลกใหม่และไม่น่าเกิดขึ้นได้จริง เชื่อหรือไม่ว่า วัน April Fool’s Day ยังถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสเพื่อที่จะทดลองไอเดียต่าง ๆ ที่ทางแบรนด์อาจได้ทำการวางแผนมาเป็นที่เรียบร้อยและต้องการที่จะทดลองตลาดว่าสินค้าจะได้รับความสนใจมากน้อยเพียงใด พร้อมทั้งคุ้มค่าแก่การผลิตหรือไม่ก็เป็นได้ หนึ่งในการตลาดวัน April Fool’s Day ที่พัฒนามาเป็นสินค้าวางขายจริงในหลายประเทศตอนนี้ จนทุกคนต้องประหลาดใจ คือ Burger King’s Chocolate Whopper หรือเบอร์เกอร์ช็อกโกแลตของเบอร์เกอร์คิง ในวัน April Fool’s ปี 2018 (ภาพประกอบด้านล่าง ริมซ้ายมือ) โดยเบอร์เกอร์ดังกล่าวนั้นประกอบไปด้วยส่วนผสมที่ไม่เคยมีการใช้ในสูตรของเบอร์เกอร์ร้านใดมาก่อน อาทิ ซอสช็อคโกแลต ราสเบอร์รี่ไซรัป ช็อกโกแลตขาว เปลือกส้มเคลือบน้ำตาลและเกล็ดวนิลลาบนขนมปังช็อคโกแลต อย่างไรก็ดี การเปิดตัวเบอร์เกอร์ชิ้นนี้กลับได้รับความสนใจเป็นอย่างมากบนโซเชียลมีเดีย จนกลายมาเป็นการพัฒนา Chocolate Whopper ที่เป็นการนำเบอร์เกอร์ของทางแบรนด์มาผสมผสานกับซอสช็อกโกแลตให้เข้ากันอย่างลงตัวขึ้นมาวางขายจริง ๆ ในปี 2021 โดย Burger King Singapore ในราคา 6.40 ดอลล่าร์สิงคโปร์ (ภาพประกอบด้านล่าง ตรงกลาง) และ ในปี 2023 ก็มี Hershey’s Chocolate King ที่มาจากการจัดมือกันระหว่างแบรนด์ช็อกโกแลต Hershey’s และ Burger King Thailand ในราคา 129 บาทต่อชิ้น (ภาพประกอบด้านล่าง ริมขวามือ) เพิ่มขึ้นมาเป็นคอลเล็กคชั่นพิเศษในเวลาจำกัดอีกด้วยเช่นกัน

ถึงแม้วัน April Fool’s จะไม่ได้เป็นเทศกาลที่ใหญ่โตอย่างวันคริสต์มาสหรือวันวาเลนไทน์ วัน April Fool’s ก็ยังนับเป็นอีกหนึ่งโอกาสในการสร้างความประทับใจและภาพจำของแบรนด์ให้กับผู้บริโภคที่แบรนด์ต่าง ๆ ไม่ควรมองข้าม เพราะไม่มีใครรู้ได้ว่า การเปิดตัวสินค้าด้วยจุดมุ่งหมายของการสร้างภาพจำและเสียงหัวเราะในครั้งหนึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนาสินค้าขายดีในอนาคตอันใกล้ก็เป็นได้

ที่มาของภาพ : Mcdonald’s, Oreo, H&M, Burger King, Burger King Singapore, Burger King Thailand

Contact
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
สอบถามทางโทรศัพท์
+66 2 677 7270-5
10th Floor, Q. House Lumpini Building,
No. 1 South Sathorn Road, Tungmahamek, Sathorn, Bangkok 10120, Thailand