Buy Now Pay Later (BNPL) คืออะไร

การซื้อก่อนจ่ายทีหลัง หรือ Buy Now Pay Later (BNPL) คือ รูปแบบการชำระเงินที่ผู้บริโภคจะได้รับสินค้าหรือบริการก่อน แล้วค่อยจ่ายเงินค่าสินค้าหรือบริการในภายหลัง ซึ่งการชำระเงินสามารถเลือกแบ่งชำระได้ตั้งแต่ 1 เดือน ถึง 4 เดือน (มากกว่านั้นจะขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ)  และถ้าเป็นการชำระเงินแบบครั้งเดียวจากการใช้บริการแบบ BNPL จะไม่เสียดอกเบี้ยอีกด้วย

ธุรกิจ Buy Now Pay Later (BNPL) เติบโตในประเทศไทย และในตลาดทั่วโลก

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้นำด้านดิจิทัล เพย์เมนต์ (Digital Payment) ของโลก ซึ่งจากข้อมูลของ ACI Worldwide ระบุว่า ในปี 2021 ประเทศไทนมีปริมาณการทําธุรกรรมการชําระเงินแบบเรียลไทม์ (Real-time payment transactions) ประมาณ 9.7 พันล้านครั้ง มากที่สุดเป็น อันดับ 3 ของโลกรองจากประเทศอินเดียและจีน และคาดว่าการใช้จ่ายทางดิจิทัลจะเติบโตขึ้นถึงร้อยละ 12 ภายในปี 2025 จากการส่งเสริมนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย

ในขณะที่บริการ BNPL ถือเป็นหนึ่งในการชําระเงินที่เติบโตไวที่สุดของโลก โดยทั่วโลกมีการเติบโตเฉลี่ยกว่าร้อยละ 50 ต่อปี (49.8%) และสำหรับประเทศไทยคาดว่าจะเติบโตถึง 16 เท่า จาก 893 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่ปี 2019 -2026

ตัวอย่างผู้ให้บริการ Buy Now Pay Later (BNPL) ในประเทศไทย

ปัจจุบันมีหลายแพลตฟอร์มที่มีบริการ Buy Now Pay Later (BNPL) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่กลุ่มลูกค้าอาทิเช่น

• SPaylater ของ Shopee
• Pay Next ของ True Money Wallet
• atome เป็นแพลตฟอร์มที่รองรับวิธีการชำระเงินในรูปแบบ Buy Now Pay Later โดยเน้นสินค้าฟุ่มเฟือยเป็นหลัก เช่น กลุ่มสินค้าด้านความสวยความงาม เช่น Sephora กลุ่มสินค้าแบรนด์เนม เป็นต้น
• ไม่ใช่แค่กลุ่มเว็บไซต์ E-Commerce แต่ธุรกิจสาธารณูปโภคมากมายก็เริ่มจับตลาด BNPL มากขึ้น อาทิเช่น
• PTT จับมือกับ Kasikorn ลูกค้าที่เติมน้ำมันสามารถจ่ายผ่านบริการ K Pay Later “เติมก่อนจ่ายทีหลัง” ได้เลย
• ศรีสวัสดิ์ แตกธุรกิจมาทำบริการ BNPL สำหรับกลุ่มประกันภัยโดยเฉพาะ

ในความเห็นของผู้เขียน คิดว่าเทรนด์การชำระเงินแบบ Buy Now Pay Later (BNPL) จะมาช่วยตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่ม Millennials หรือ กลุ่ม GenZ โดยเหตุผลที่ว่า ผู้บริโภคกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ต้องการความคล่องตัว รวมถึงความยืดหยุ่นในการชำระเงินค่อนข้างมาก ซึ่งการชำระเงินแบบ BNPL จะสามารถเปิดโอกาสให้คนกลุ่มนี้ซื้อสินค้าที่มีราคาสูงได้สะดวกขึ้น ถึงแม้ว่าตัวเองไม่มีเครดิตมากพอที่จะผ่อนสินค้าหรือบริการที่มีราคาสูง ซึ่งถ้ากลุ่มผู้ประกอบการสามารถออกแบบระยะจำนวนเดือนให้เหมาะสมกับกำลังการจ่าย ก็จะสามารถจูงใจให้ลุกค้ากลุ่มนี้มีเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย