อย่างที่เราทุกคนทราบกันดีว่าทุกวันนี้ระบบเศรษฐกิจหรือกลุ่มอุตสาหกรรมถูกขับเคลื่อนด้วยความต้องการทางสังคม แน่นอนว่าในขั้นตอนการผลิตนั้นจะต้องอาศัยการใช้ทรัพยากรธรรมชาติเพื่อมาใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งปัจจุบันการเพิ่มของประชากรโดยเฉลี่ยทั่วโลกมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน และการที่ประชากรเพิ่มจำนวนมากขึ้นหมายถึงความต้องการในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในการดำรงชีวิตก็เพิ่มขึ้นด้วย ประกอบกับการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมนานาประการ จึงทำให้โลกเราได้เผชิญหน้ากับปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมในหลายประการ เช่น ปัญหาภาวะโลกร้อน ปัญหาขยะอาหาร ปัญหาขยะพลาสติก ปัญหาฝุ่นละออง และปัญหาสัตว์สูญพันธุ์
ดังนั้นจึงทำให้ปัญหาสิ่งแวดล้อมกลายเป็นประเด็นที่ได้รับการพูดคุยกันอย่างแพร่หลายในสังคมเนื่องจาก
ประชาชนมีความตื่นตัวในเรื่องสิ่งแวดล้อมรับรู้ความรุนแรงของปัญหาและผลกระทบที่ตามมาจากการดำเนินกิจกรรมต่างๆในการดำรงชีวิตมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ประชาชนเริ่มตระหนักถึงความสำคัญในการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดผลเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ผู้ประกอบการและและผู้ผลิตเองจึงเริ่มมีความตระหนักว่าการทำธุรกิจโดยไม่คำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วยจะเป็นผลเสียอย่างยิ่งในอนาคตทั้งในแง่ผลประกอบการและการยอมรับของประชาชนจึงได้เริ่มมีการทำระบบเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนและการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเราจะยกตัวอย่างแบรนด์ที่ได้มีการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยอย่าง UNIQLO ที่มุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจให้มีความยั่งยืนอย่างแท้จริงด้วยการจำกัดปริมาณการสร้างของเสียให้เกิดขึ้นน้อยที่สุดและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมลง
- UNIQLO มุ่งสู่ความยั่งยืนด้วยเป้าหมายที่จะผลิตเสื้อผ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้เริ่มมีการผลิตยีนส์ที่ลดปริมาณการใช้น้ำ เนื่องจากว่าโดยทั่วไปแล้วนั้นการจะผลิตยีนส์จะต้องใช้น้ำในปริมาณมากโดยใช้น้ำประมาณ 1,800 แกลลอน เพื่อนำไปเลี้ยงคอตตอนเพื่อนำมาแปรรูปเป็นกางเกงยีนส์หนึ่งตัว ซึ่งการผลิตยีนส์รักษ์โลกของ UNIQLO ที่ได้ผลิตขึ้นมานี้ใช้เทคโนโลยีจากศูนย์นวัตกรรมยีนส์ในลอสแอนเจลิส ที่เรียกว่า BlueCycle ซึ่งสามารถลดการใช้แรงงานและการใช้น้ำในกระบวนการซักฟอกและแต่งผิวผ้ายีนส์ได้อย่างมากถึง 99% จึงทำให้การแต่งผิวกางเกงยีนส์ยังคงมีมาตรฐานดังเดิมแต่เปลี่ยนจากการใช้น้ำในปริมาณมากเหลือเพียง 1 ถ้วยชาเท่านั้น
- UNIQLO ยังมีความมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมต่อการลดการเกิดเหตุการณ์ที่มีขยะเสื้อผ้ากว่า 59,000 ตันจากปรากฏการณ์ฟาสแฟชั่นที่เกิดขึ้นในวงการแฟชั่นปัจจุบัน โดย UNIQLO ได้ทำการรับผิดชอบต่ออุตสาหกรรมแฟชั่นเสื้อผ้าที่ปัจจุบันคือ การนำขวดพลาสติกที่ใช้แล้วเป็นแหล่งวัตถุดิบสำหรับผ้าฟลีช โดยมีไอเทมยอดฮิต ที่ลูกค้าทั่วโลกต้องมี นั่นคือ Fleece Jacket โดยการนำขวดพลาสติกมาเป็นส่วนประกอบในการผลิต ผ้าฟลีช ต้องนำมาผ่านขั้นตอนการรวบรวม คัดแยก ล้าง ทำความสะอาด แล้วค่อยนำมาบดละเอียดเพื่อนำมาทักถอเป็นเนื้อผ้าฟลีช อย่างไรก็ตาม UNIQLO เองยังคงพัฒนาการผลิตอย่างต่อเนื่องเพื่อลดการเกิดของเสียให้ได้มากที่สุด
- นอกจากที่ UNIQLO เองได้มีความกังวลถึงขยะพลาสติกในมหาสมุทรไม่ว่าจะเป็นการที่สัตว์น้ำกินพลาสติกเนื่องจากเข้าใจว่าเป็นอาหาร หรือการที่มีพลาสติกไปพันรัดขาหรือคอของสัตว์เหล่านั้น ทาง UNIQLO คาดหวังว่าจะสามารถลดปริมาณการใช้พลาสติกลงให้ได้มากที่สุด ด้วยการงดการใช้ถุงพลาสติกสีขาวสำหรับใส่สินค้าที่ผ่านการชำระเงินแล้วมาเป็นถุงกระดาษ (ทำจากกระดาษรีไซเคิลที่ได้รับการรับรองจาก Forest Stewardship Council (FSC)) ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวอีกด้วย
ที่มา:
- https://www.springnews.co.th/blogs/spring-life/824079
- https://www.salika.co/2022/09/21/re-uniqlo-solution-for-fast-fashion/
- https://www.uniqlo.com/th/th/news/topics/2020072601/