ในเดือนมิถุนายน ของทุกปีถือเป็น “Pride Month” หรือเดือนที่เป็นความภาคภูมิใจของกลุ่ม LGBTQ ประเทศไทยเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่ให้การยอมรับในความหลากหลายทางเพศ ซึ่งในเชิงการตลาดนั้น “โอกาส” และ “ศักยภาพ” ของกลุ่มผู้บริโภคชาว LGBTQ เป็นกลุ่มเป้าหมายทางการตลาด (Target Market) ที่นับได้ว่ามีมูลค่ามหาศาล
ซึ่งจากข้อมูลของ LGBTQ-Capital พบว่าในปี 2020 จำนวนประชากรชาว LGBTQ ในทวีปเอเชีย-แปซิฟิกที่มีอายุมากกว่า 15 ปี มีจำนวนมากถึง 175,688,000 คน โดยประเทศที่มีประชากร LGBTQ สูงสุด 5 ประเทศได้แก่ ประเทศจีน 74,700,000 คน ประเทศอินเดีย 64,600,000 คน ประเทศอินโดนิเซีย 12,700,000 คน ประเทศญี่ปุ่น 7,100,000 คน และประเทศไทย 3,600,000 คน
สำหรับประเทศไทย มีการขับเคลื่อน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม การรองรับสิทธิชอบธรรมต่างๆ ตามกฎหมาย รวมถึงการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและความเท่าเทียมทางเพศ นั่นแสดงให้เห็นแล้วว่ากลุ่ม LGBTQ เป็นกลุ่มที่น่าจับตามอง และจะเป็นน่านน้ำแห่งใหม่ที่จะนำพาหลายๆ ธุรกิจให้เติบโตมากขึ้น โดยปัจุบันมีแบรนด์สินค้าทั้งในระดับโลก และระดับประเทศที่หันมาเจาะตลาดกลุ่ม LGBTQ มากขึ้น อาทิเช่น
Apple – มีการออกสินค้าในกลุ่มของ Watch ที่มีการเล่นสีสันของสาย และหน้าปัดนาฬิกาเป็นสีรุ้งเพื่อให้ทุกคนได้ร่วมกันเฉลิมฉลองในความภาคภูมิใจการได้เป็น LGBTQ
Lego – มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นตัวต่อที่มีความหลากสีด้วยคอนเซปต์ Everyone Is Awesome โดยในชุดของเล่นจะประกอบด้วยหุ่นตัวต่อจำนวน 11 ตัว มีการใช้สีประจำของกลุ่ม LGBTQ ที่เป็นสีรุ้ง
Disney – ร่วมสนับสนุนความหลากหลายทางเพศนี้โดยผ่านสินค้าในหมวดเสื้อผ้าในชุด Rainbow Disney ผ่านตัวการ์ตูนที่พวกเราจดจำ เช่น มิกกี้ เมาส์ มาร์เวล หรือสตาร์ วอร์ส ที่ถูกเปลี่ยนสีลวดลายดั้งเดิมของตัวละครให้กลายเป็นสีรุ้งของกลุ่ม LGBTQ
SC ASSET – หนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ที่ให้ความสำคัญในความหลากหลายทางเพศ เปิดโอกาสให้คู่รักกลุ่ม LGBTQ สามารถยื่นกู้ร่วมสินเชื่อบ้านในโครงการ ของ SC ASSET ภายใต้คอนเซปต์ “RAINBOW OVER YOUR HOUSE”
ผู้เขียนมีข้อเสนอเพิ่มเติมว่า ในการทำตลาดกลุ่ม LGBTQ ผู้ประกอบการในทุกๆ อุตสาหกรรมควรที่จะต้องศึกษาความต้องการ และรสนิยมที่แท้จริง ของกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มนี้อย่างจริงจัง อีกทั้งไม่ควรคิดแบบฉาบฉวยเพียงเพื่อเป็นการจัดกิจกรรมของแบนด์สินค้าเท่านั้น เนื่องจากตลาดกลุ่ม LGBTQ มีความหลากหลายสูงทั้งเพศ วัย และความเชื่อ ดังนั้นถ้าผู้ประกอบการสามารถทำให้แบรนด์สินค้าสามารถครองใจกลุ่ม LGBTQ ได้แล้ว นอกจากผลตอบแทนทางธุรกิจที่จะได้รับ ผู้เขียนเชื่อว่าศรัทธาของฐานลูกค้ากลุ่ม LGBTQ จะอยู่ยิ่งยืนนานกับผู้ประกอบการตลอดไป