EEC และการลงทนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย

โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor(EEC) หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ อีสเทิร์นซีบอร์ด (Eastern Seaboard) เป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาพื้นที่ใน 3 จังหวัดพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก ได้แก่ ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ให้เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย

EEC มีโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ที่มีความพร้อมรับกับทุกกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือแหลมฉบัง หนึ่งในท่าเรือน้ำลึกหลักสำหรับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ซึ่งล่าสุดทาง EEC มีแผนที่จะพัฒนาท่าเรือแห่งนี้ให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าของภูมิภาคอินโดจีนและประตูการค้าสำคัญที่สามารถรองรับตู้สินค้าที่เพิ่มขึ้นและรองรับการขนส่งของอุตสาหกรรมหนัก เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ นอกจากนี้ EEC ยังอยู่ระหว่างพัฒนารถไฟความเร็วสูงที่จะเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างสนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินอู่ตะเภา ให้มีความรวดเร็วและสะดวกสบายด้วยความเร็ว 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง และยังมีแผนที่จะพัฒนาท่าเรือมาบตาพุดเพื่อเพิ่มขีดความสามารถและความจุในการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติและสินค้าเหลวสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เพื่อรักษาความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ และเมื่อพัฒนาแล้วเสร็จจะสามารถรองรับการขนส่งได้ 31 ล้านตันต่อปี

ภาพรวมพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor (EEC)

ที่มา: www.eeco.or.th

สำหรับนักลงทุนที่สนใจจะเข้ามาเริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ทาง EEC ได้กำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมายตามแผนการพัฒนาประเทศไปสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ตามนโยบายของรัฐบาลไว้ 12 กลุ่ม ได้แก่

การยกระดับ 5 อุตสาหกรรมเป้าหมายเดิม (First S- curves)

  • อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่
  • อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ
  • อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
  • อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ
  • อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร

การต่อยอด 7 อุตสาหกรรมใหม่ (New S – curves)

  • อุตสาหกรรมหุ่นยนต์
  • อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร
  • อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์
  • อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ
  • อุตสาหกรรมดิจิตอล
  • อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ
  • อุตสาหกรรมการพัฒนาบุคลากรและการศึกษา

เพื่อเป็นการสนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมเหล่านี้ EEC ร่วมกับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้มอบให้สิทธิประโยชน์ทางการลงทุนให้แก่นักลงทุนที่เข้าเงื่อนไข ไม่ว่าจะเป็น การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล การยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับเครื่องจักรและวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต การให้สิทธิ์ในการเช่าที่ดินและอนุญาตให้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อประกอบกิจการ เงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการลงทุนและการวิจัยและพัฒนา รวมถึงบริการ One-stop Service ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ และ อื่นๆ

EEC

จึงเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการเติบโตของนักลงทุนที่จะช่วยเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานใหม่ๆและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน อีกทั้งยังยกระดับประเทศไทยไปสู่ความมีเสถียรภาพทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมอีกด้วย

Contact
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
สอบถามทางโทรศัพท์
+66 2 677 7270-5
10th Floor, Q. House Lumpini Building,
No. 1 South Sathorn Road, Tungmahamek, Sathorn, Bangkok 10120, Thailand