ในปัจจุบัน สินค้าแบรนด์หรูนับเป็นวัตถุอย่างหนึ่งที่ใช้ในการแสดงตัวตน สไตล์ และรสนิยมของผู้บริโภค โดยสินค้าแบรนด์หรูเหล่านี้จะสร้างทัศนคติในการซื้อสินค้าและบริการของตนเองว่าเป็นการได้ครอบครองสถานะทางสังคม ผ่านการแสดงความหายาก คุณภาพและการผลิตชิ้นงานที่เหนือกว่าสินค้าอื่น ๆ ในตลาด Mass ซึ่งทำให้ความต้องการสินค้า (อุปสงค์) และราคาเพิ่มขึ้น จากฐานข้อมูล EMIS ในปีที่ผ่านมา กลุ่มสินค้าลักชัวรีในกลุ่มสินค้าส่วนบุคคลมีมูลค่าสูงถึง 67,428 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนมีมูลค่าสูงถึง 99,183 ล้านบาทภายในปี 2569 โดยคาดว่าจะมีอัตราเติมโตร้อยละ 8 ต่อปีเลยทีเดียว โดยมีเหตุผลหลัก ๆ คือจำนวณประชากรที่มีเงินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ (affluent individuals) และเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นทำให้การเข้าถึงสินค้าง่ายขึ้น
หากแบ่งตามสัดส่วนภายในของสินค้าลักชัวรีในกลุ่มสินค้าส่วนบุคคล จะพบว่า สินค้าประเภทเสื้อและรองเท้า (Designer apparel and Footwear) มีสัดส่วนมากถึงร้อยละ 29 ตามมาด้วยสินค้าประเภทเครื่องหนัง (Luxury Leather goods) ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 23 และสินค้าเพื่อความงามและดูแลร่างกาย (Premium Beauty and personal care) ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 16 และในปีที่ผ่านมา แต่ละกลุ่มก็มีการเติบโตสูงร้อยละ 5.8 3.8 5.8 ตามลำดับ ซึ่งสอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจภายในประเทศ
ในด้านของสินค้าลักชัวรีประเภทเสื้อผ้าและรองเท้า ซึ่งเป็นสินค้าที่มีสัดส่วนใหญ่ที่สุดในกลุ่มสินค้าลักชัวรี จะเห็นได้ว่า 5 แบรนด์ดังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและสามารถทำยอดขายมากที่สุด ในหมวดสินค้าลักชัวรีประเภทเสื้อและรองเท้าในปี 2564 ได้แก่ Gucci, Hermes, Chanel, Louis Vuitton และ Calvin Klein ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า Gucci ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้าง Pop Culture ของคนรุ่นใหม่ โดยล่าสุดทางบริษัทได้เปิดตัว adidas x Gucci คอลเล็กชั่นที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายความสนุกจากยุค 70s เพื่อตอบสนองกับความต้องการที่สูงขึ้น
ในด้านของสินค้าลักชัวรีประเภทเครื่องหนัง ซึ่งเป็นสินค้าที่มีสัดส่วนใหญ่รองลงมาในกลุ่มสินค้าลักชัวรี จะเห็นได้ว่า แบรนด์ดังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและสามารถทำยอดขายมากที่สุด ในหมวดสินค้าลักชัวรีประเภทเครื่องหนังในปี 2564 ได้แก่ Louis Vuitton, Gucci, Hermes, Bottega Veneta และ Chanel ข้อมูลจาก LVMH ยักษ์ใหญ่ธุรกิจลักชัวรี แถลงว่า ยอดขายสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยความนิยมกระเป๋า ‘Louis Vuitton’ พุ่ง หลังคลายล็อกดาวน์ นักช้อปชาวเอเชียเริ่มกลับมาซื้อเครื่องประดับสุดหรูมากขึ้นเรื่อยๆ
ท้ายที่สุดในด้านสินค้าลักชัวรีประเภทเพื่อความงามและดูแลร่างกาย จะเห็นได้ว่า 5 แบรนด์ดังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและสามารถทำยอดขายมากที่สุด ในหมวดสินค้าลักชัวรีประเภทเพื่อความงามและดูแลร่างกายในปี 2564 ได้แก่ Chanel, Schwarzkopf, La Mer, Christian Dior และ Sulwhasoo แม้เศรษฐกิจและกำลังซื้อภาพรวมจะชะลอตัวลง แต่พฤติกรรมการบริโภคของคนยุคใหม่มีความใส่ใจในการดูแลตัวสูง
ที่มา Euromonitor