การตลาดแบบ “Cute Marketing” ที่มีแต่ความน่ารัก

ความนิยมในประเทศไทยในปีนี้ ไม่ว่าจะฟิกเกอร์ป๊อปมาร์ท น้องหมีเนยบัตเตอร์แบร์ หรือกระแสล่าสุดอย่างน้องหมูเด้ง ฮิปโปแคระตัวน้อยที่ความนิยมไม่ได้ครอบคลุมเพียงแค่ที่ประเทศไทยแต่ยังดังไปไกลทั่วโลกถึงขนาดที่สื่อดังในต่างประเทศอย่าง TIME หรือแม้แต่ CNN BBC และสื่ออื่นๆ อีกมากมายที่ต่างพร้อมใจเข้ามาเกาะกระแสน้องหมูเด้ง ซึ่งอาจสะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ทางการตลาดที่คล้ายคลึงกันคือการชูความ ‘ความน่ารัก’ เป็นจุดดึงดูดความสนใจให้กลุ่มเป้าหมายเกิดภาพจำและรู้สึกอยากได้อยากมีจนเกิดการซื้อสินค้าในที่สุด ตัวอย่างเหล่านี้ถือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่เรียกว่า “Cute Marketing” ซึ่งการกลยุทธ์ทางการตลาดนี้มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์อธิบายเบื้องหลังด้วยเช่นกัน ผลการศึกษาชี้ว่าความน่ารักส่งผลให้เราเกิดความสนใจและอยากครอบครองเพิ่มมากขึ้น งานวิจัยของ University of Oxford ในปี 2016 ได้ให้คำตอบว่าความน่ารักส่งผลอย่างไรต่อสมองและพฤติกรรมของเรา โดยผลการศึกษาระบุว่าความน่ารักยังช่วยกระตุ้นเร่งการทำงานของสมองในส่วน Orbitofrontal Cortex ที่เชื่อมโยงกับอารมณ์และความพึงพอใจของมนุษย์ ซึ่งอาจกระตุ้นให้เราเกิดความรู้สึกอยากปกป้องคล้ายกับความรู้สึกที่พ่อแม่มักรู้สึกต่อลูกของตัวเองได้เช่นกัน นอกจากนี้บทความของ Vice ยังกล่าวถึงปฏิกิริยาแบบ Cute Aggression หรือการเห็นความน่ารักแล้วเกิดความรู้สึก ‘มันเขี้ยว’ เกิดจากการที่ฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกดีอย่าง Dopamine พุ่งสูงขึ้น ทำให้เกิดการปลดปล่อยอารมณ์หรือพลังงานออกมาจากความรู้สึกที่เอ่อล้นขึ้นมาในลักษณะของความรู้สึกมันเขี้ยวนั่นเอง ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ความน่ารักเหล่านี้จะกระตุ้นให้เราเกิดความรู้สึกพึงพอใจ ชื่นชอบ และอาจนำไปสู่ความอยากได้อยากซื้อในที่สุด ตัวอย่างที่อาจเห็นได้ชัดในประเทศไทยก็มีอย่างเช่น Pop Mart ร้านที่รวบรวมฟิกเกอร์ตัวจิ๋วที่ได้รับความนิยมสูงในช่วงหนึ่ง นอกจากการเกาะกระแสของคนไทยแล้ว ส่วนหนึ่งที่ทำให้ Pop Mart ประสบความสำเร็จมาจากความน่ารักของหุ่นจำลองตัวจิ๋วที่ทำให้หลายคนอยากจับซื้อจับจองเป็นเจ้าของกัน… Continue reading การตลาดแบบ “Cute Marketing” ที่มีแต่ความน่ารัก

อนาคตอีคอมเมิร์ซไทย: โอกาส การเติบโต และความท้าทาย

ในบทความนี้ ผู้เขียนจะพาผู้อ่านมาวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับตลาดอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce: EC) ในประเทศไทยหลังวิกฤตโควิด-19 (Covid-19) โดย อีคอมเมิร์ซ คือธุรกิจการซื้อขายที่ดำเนินการบนโลกออนไลน์ ผ่านช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน (Application) หรือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce Platform) ที่มีให้เลือกมากมายในปัจจุบัน ซึ่งการแข่งขันในธุรกิจนี้ถือว่าสูงมาก แพลตฟอร์มต่าง ๆ จึงต้องนำกลยุทธ์และจุดขายเฉพาะตัวออกมาเพื่อแย่งชิงความได้เปรียบและดึงดูดลูกค้าอย่างเข้มข้น สินค้าที่จำหน่ายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซครอบคลุมตั้งแต่สินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ปัจจัย 4 ไปจนถึงบริการในด้านต่าง ๆ เรียกได้ว่าเป็นรูปแบบการค้าขายที่ไร้ขีดจำกัดอย่างแท้จริง ยิ่งในยุคที่อินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้ทุกพื้นที่ ก็ยิ่งส่งผลให้ธุรกิจประเภทนี้เติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะในประเทศไทยหรือตลาดโลก ซึ่งตามรายงานของ Google, Temasek และ Bain & Company ในปี 2024 ประเทศไทยถือเป็นตลาดอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่เป็นอันดับสองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีมูลค่ารวมของสินค้าทั้งหมด (Gross Merchandise Value: GMV) อยู่ที่ 30 พันล้านเหรียญสหรัฐ แม้ผู้บริโภคจะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติหลังวิกฤตโควิด-19 แต่คาดว่าตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยจะยังคงเติบโตในอัตราเฉลี่ยสะสมต่อปี (Compound Annual Growth… Continue reading อนาคตอีคอมเมิร์ซไทย: โอกาส การเติบโต และความท้าทาย

อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงที่กำลังเติบโต: โอกาสและแนวโน้มในประเทศไทย

ในขณะที่ความผูกพันระหว่างมนุษย์กับสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงทั่วโลกก็ได้เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่สำคัญในอุตสาหกรรมนี้ การขยายตัวของเมือง รายได้ที่เพิ่มขึ้น และการเปลี่ยนแปลงทางสังคมมีส่วนในการขยายตลาดสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยเป็นอย่างมากลัทำให้อุตสาหกรรมนี้เป็นอุตสาหกรรมที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนและธุรกิจ ภาพรวมของตลาด: ในปัจจุบัน อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเพิ่มขึ้นของการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นประจำทุกปีและคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากครัวเรือนในเมืองไทยหันมาเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกในครอบครัว (Pet Parent) มากขึ้น แนวโน้มนี้มีความชัดเจนในหมู่ผู้อยู่อาศัยในเมืองที่หันมาเลี้ยงสัตว์เพื่อความเป็นเพื่อนในที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่จำกัด เช่น คอนโดมิเนียมและอพาร์ทเมนท์  แนวโน้มผู้บริโภค: ผู้เลี้ยงสัตว์ในปัจจุบันมีความรู้และใส่ใจเรื่องความเป็นอยู่ของสัตว์เลี้ยงมากขึ้น ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการสัตว์เลี้ยงที่มีคุณภาพสูงเพิ่มขึ้น ตั้งแต่การเลือกอาหารสัตว์ออร์แกนิก ไปจนถึงบริการดูแลสัตว์เลี้ยงระดับพรีเมียม และแม้กระทั่งประกันสัตว์เลี้ยง อุตสาหกรรมนี้จึงได้ตอบสนองต่อผู้บริโภคที่มีความต้องการสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีความสนใจเพิ่มขึ้นในการจัดหาที่พักและพื้นที่สาธารณะที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในการรวมสัตว์เลี้ยงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน โอกาสทางธุรกิจ: สำหรับธุรกิจ อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงที่กำลังขยายตัวนี้นำมาซึ่งโอกาสมากมาย ร้านค้าปลีกที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง บริการสัตวแพทย์ และสถานดูแลเฉพาะทางกำลังได้รับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น การเพิ่มขึ้นของอีคอมเมิร์ซยังส่งผลให้ธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้เติบโตขึ้นอีกด้วย โดยแพลตฟอร์มออนไลน์กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับการซื้อสินค้าสัตว์เลี้ยงและบริการ นอกจากนี้ บริษัทต่างชาติยังให้ความสนใจในตลาดไทย โดยมองว่าเป็นประตูสู่ภูมิภาคอาเซียนที่กว้างขึ้น การร่วมมือกับธุรกิจในประเทศ พันธมิตรในด้านการดูแลสัตว์ และการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่เน้นสัตว์เลี้ยงเป็นเพียงไม่กี่วิธีที่บริษัทสามารถเข้าถึงตลาดที่กำลังเติบโตนี้ ความท้าทายและข้อควรพิจารณา: แม้ว่าอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยจะเต็มไปด้วยโอกาส แต่ก็ไม่ปราศจากความท้าทาย ข้อพิจารณาด้านกฎระเบียบ เช่น การจำกัดการนำเข้าอาหารสัตว์และผลิตภัณฑ์บางชนิด จำเป็นต้องได้รับการจัดการอย่างรอบคอบ นอกจากนี้ ความแตกต่างทางวัฒนธรรมในการเลี้ยงสัตว์และการดูแลอาจต้องการกลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจที่เข้ามาในตลาด อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยไม่ใช่เพียงแค่กระแส แต่เป็นการสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเติบโตของตลาดที่มีศักยภาพสูง ธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ที่เข้าใจลักษณะเฉพาะของตลาดในประเทศ โอกาสที่มีอยู่มากมาย… Continue reading อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงที่กำลังเติบโต: โอกาสและแนวโน้มในประเทศไทย

กระบวนการควบรวมและการเข้าซื้อกิจการ (M&A): ขั้นตอนพื้นฐานสำคัญที่ควรรู้

การควบรวมและการเข้าซื้อกิจการ หรือ Mergers and Acquisitions (M&A) เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องการความรอบคอบในการดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่ต้องการขยายธุรกิจ เพิ่มความสามารถทางการแข่งขัน หรือต้องการเข้าสู่ตลาดใหม่ กระบวนการ M&A เป็นเครื่องมือสำคัญที่สามารถช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ได้ ในบทความนี้ เราจะสำรวจขั้นตอนพื้นฐานสำคัญของกระบวนการ M&A 1. การวางแผนและการวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์: กระบวนการ M&A เริ่มต้นด้วยการวางแผนเชิงกลยุทธ์ ซึ่งเป็นการระบุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการควบรวม หรือการเข้าซื้อกิจการ บริษัทต้องประเมินว่าการทำธุรกรรมนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับองค์กรอย่างไร รวมถึงการประเมินโอกาสและความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น 2. การหาบริษัทเป้าหมายและการเจรจา: เมื่อมีการกำหนดกลยุทธ์แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการหาบริษัทเป้าหมายที่มีคุณสมบัติตรงตามวัตถุประสงค์ของการควบรวมหรือการเข้าซื้อกิจการ การเลือกบริษัทเป้าหมายต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายประการ เช่น ขนาดธุรกิจ สถานะทางการเงิน สภาพคล่อง และแนวโน้มการเติบโต หลังจากนั้น การเจรจาเพื่อให้ได้ข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายจะเริ่มขึ้น 3. การทำ Due Diligence: การทำ Due Diligence เป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในกระบวนการ M&A ซึ่งบริษัทผู้ซื้อจะทำการตรวจสอบสถานะทางการเงิน สัญญาทางธุรกิจ ภาระหนี้สิน และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเป้าหมาย การตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนนี้จะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และทำให้กระบวนการ M&A… Continue reading กระบวนการควบรวมและการเข้าซื้อกิจการ (M&A): ขั้นตอนพื้นฐานสำคัญที่ควรรู้

เตรียมตัวก้าวเข้าสู่ปี 2024:ข้อควรรู้ส าหรับผู้ประกอบการเพื่อการด าเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

ความซื่อตรง (Integrity) คือรากฐานที่ส าคัญของการท าธุรกิจที่ยั่งยืน นอกจากองค์กรณ์ผู้ประกอบการธุรกิจแล้วนั้น แน่นอนว่าการด าเนินธุรกิจจะสามารถด าเนินไปได้ต่อเมื่อได้รับการยอมรับและมีความต้องการจากผู้บริโภค องค์กรณ์คู่ค้า และนักลงทุน หากแต่การพยายามจะพูดโน้มน้าวจูงใจผู้เกี่ยวข้องเหล่านั้นที่มากเกินไปกว่าขอบเขตที่ผู้ประกอบการจะสามารถท าได้จริงอาจน าไปสู่ความเสื่อมเสียขององค์กรณ์และการสูญเสียความเชื่อใจในระยาวของผู้เกี่ยวข้องได้โดยง่ายดาย ทั้งนี้การสื่อสารขององค์กรณ์จึงเป็นสิ่งที่ส าคัญเป็นอย่างมาก เพราะการสื่อสารและแสดงออกของอค์กรณ์จ าต้องสามารถที่จะโน้มน้าวจูงใจและสร้างความเชื่อใจระหว่างองค์กรณ์กับผู้เกี่ยวข้อง แต่จ าต้องไม่เป็นการน าเสนอสิ่งที่มากจนเกิดความจริงที่อาจน าไปสู่ความเข้าใจผิดได้ในอนาคต การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI: Artificial Intelligence) อย่างชาญฉลาด  คงจะปฎิเสธไม่ได้ว่าปี 2023 ที่ผ่านมา ได้เป็นปีที่พิสูจน์ให้เห็นศักยภาพในด้านต่าง ๆ ของปัญญาประดิษฐ์ในแวดวงธุรกิจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส าหรับปัญหาประดิษฐ์เชิงก าเนิด (Generative AI: Generative Artificial Intelligence)อาทิ ChatGPT และ MidJourney ที่สามารถน ามาประยุกต์ช่วยทุ่นแรงในการท างานด้านต่าง ๆ เช่น การวิเคราะห์แยกแยะข้อมูลการแปลภาษา และการท างานแทนที่มนุษย์อาทิ การรังสรรค์ภาพประกอบ หรือแม้แต่การสร้างวิดีโอโฆษณาต่าง… Continue reading เตรียมตัวก้าวเข้าสู่ปี 2024:ข้อควรรู้ส าหรับผู้ประกอบการเพื่อการด าเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

10 เทรนด์การตลาดแห่งปี 2024

ไม่ว่าสินค้าหรือบริการของจะดีเพียงใด สิ่งที่ผู้ประกอบการจะละเลยไปไม่ได้เลยนั่นก็คือ การท าการตลาดอย่างมีกลยุทธ์(Strategic Marketing) เพราะหากไม่มีการท าการตลาดที่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะส่งสารได้อย่างน่าดึงดูดถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย สินค้าหรือบริการที่ถูกจัดการจัดแจงมากอย่างดิบดีก็คงจะถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย ในวันนี้ทางเราจึงขอน าเสนอถึง 10 เทรนด์การตลาดแห่งปี 2024 ที่ผู้ประกอบการควรพึงน ามาประยุกธ์ใช้ในการท าการตลาดเพื่อธุรกิจของตน (1) Artificial Intelligence (AI)และระบบอัตโนมัติในการตลาด: บริษัทใช้ AI และระบบอัตโนมัติเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า โดยตอบค าถาม และแนะน าสินค้าในการติดต่อลูกค้าแบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาดและสร้างประสบการณ์ที่เฉพาะบุคคลส าหรับลูกค้า โดยยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญและให้ข้อมูลที่เชื่อถือได้ที่มาจากข้อมูลที่มีคุณภาพสูงขึ้น (2) การตลาดที่สามารถเข้าถึงตัวของลูกค้าได้แบบเฉพาะเจาะจง โดยการใช้ Big Data มาวิเคราะห์: ในยุคปัจจุบัน, เทคโนโลยีBig Data และ Machine Learning เป็นแนวโน้มส าคัญในการตลาดที่เน้นการเข้าถึงลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล ด้วยการใช้ข้อมูลจากหลายแหล่ง เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลซับซ้อน เพื่อสร้างกลยุทธ์การตลาดที่เน้นการเข้าถึงลูกค้าอย่างเฉพาะเจาะจง และปรับปรุงเนื้อหา ผลิตภัณฑ์ ข้อเสนอ และการสื่อสารให้เหมาะสมกับแต่ละลูกค้า (3) การเกิดเครื่องมือการตอบค าถาม… Continue reading 10 เทรนด์การตลาดแห่งปี 2024

ซอฟต์พาวเวอร์ของเกาหลีใต้และบริบทของประเทศไทย

ด้วยกระแสของการโปรโมทซอฟต์พาวเวอร์ (soft power) ในประเทศไทย รวมไปถึงการจัดตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติเมื่อปลายปีที่แล้ว ทำให้หลายคนเริ่มหันมาให้ความสนใจ ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ อีกครั้งหนึ่งหลังจากที่ได้เห็นกระแสของเกาหลีฟีเวอร์ที่เผยแพร่ไปทั่วโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หรือแม้แต่การส่งออกละครจากจีนและกระแส J-Trend ที่ส่งออกจากญี่ปุ่นในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ซึ่งโดยสรุปแล้วอาจตีความได้ว่าซอฟต์พาวเวอร์นั้นคืออำนาจหรือความสามารถของประเทศที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้อื่นเพื่อให้ได้รับการยอมรับหรือได้มาในสิ่งที่ต้องการได้ ทั้งนี้ ซอฟต์พาวเวอร์ไม่ได้หมายรวมถึงแค่การโปรโมทเชิงวัฒนธรรมเพียงเท่านั้น โดย Josh Nye ผู้ริเริ่มแนวคิดดังกล่าวได้กล่าวถึงที่มาทั้ง 3 แหล่งของซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศ ได้แก่ วัฒนธรรม ค่านิยมทางการเมือง และนโยบายการต่างประเทศ ที่เป็นหัวใจหลักส่งเสริมความสามารถในการโน้มน้าวให้เกิดการยอมรับ ความเชื่อ หรือแม้กระทั่งแรงจูงใจต่างๆ ที่จะนำมาสู่ประโยชน์ของประเทศเจ้าของซอฟต์พาวเวอร์ได้ในที่สุด จากการจัดอันดับประเทศที่มีซอฟต์พาวเวอร์มากที่สุดในปี 2023 (Global Soft Power Index 2023) โดย Brand Finance พบว่าสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีซอฟต์พาวเวอร์ทรงอิทธิพลมากที่สุด โดยเฉพาะอิทธิพลของวงการหนังฮอลลีวูดหรือแนวคิดเชิงเสรีที่สามารถแทรกซึมได้ในหลายประเทศ สำหรับประเทศไทยแล้วเราอาจเห็นตัวอย่างของซอฟต์พาวเวอร์ที่ชัดเจนได้จากอิทธิพลของประเทศแถบเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะประเทศเกาหลีใต้ (อันดับ 15 ของ Global Soft Power Index 2023) ผู้ส่งออกกระแส Hallyu หรือ Korean waves… Continue reading ซอฟต์พาวเวอร์ของเกาหลีใต้และบริบทของประเทศไทย

การเติบโตของธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทย

วัฒนธรรมความเป็นญี่ปุ่นในสังคมไทยนั้นปรากฏให้เห็นอยู่ทั่วไปและมีรูปแบบที่มีความหลากหลาย โดยเฉพาะอาหารญี่ปุ่นที่ปรากฏเพิ่มมากขึ้นในสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภท ข้าวปั้น ปลาดิบ อาหารชุด ปิ้งย่าง หรือชาบูชาบู ฯลฯ ซึ่งอาหารญี่ปุ่นเริ่มเป็นที่นิยมโดยทั่วไปในประเทศไทยมานาน จากมูลค่าตลาดและการเจริญเติบโตของร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยที่มีอย่างต่อเนื่อง องค์กรส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือที่รู้จักกันดีในนาม “เจโทร” (Japan External Trade Organization: JETRO) ซึ่งมีบทบาทหน้าที่การกระชับสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุน ระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น รวมถึงช่วยส่งเสริมเผยแพร่อุตสาหกรรมอาหารญี่ปุ่น และให้การสนับสนุนร้านอาหารญี่ปุ่นให้เป็นที่แพร่หลายในทุกภูมิภาคของประเทศไทยได้จัดทำรายงาน “ผลการสำรวจร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยประจำปี 2566” พบว่า แนวโน้มของจำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา มีจำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นทั้งหมด 5,751 ร้าน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.0 จากปีที่ผ่านมา โดยมีจำนวนร้านเพิ่มขึ้น 426 ร้าน แผนภูมิจำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทย (หน่วย:ร้าน) จากการเปรียบเทียบข้อมูลปี พ.ศ. 2561 กับ พ.ศ. 2566 พบว่าจำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น 1.5 เท่า ในขณะที่เขตพื้นที่ปริมณฑลเพิ่มขึ้น 2.2 เท่า และเขตพื้นที่ต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น… Continue reading การเติบโตของธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทย

ประเภทขององค์กรธุรกิจในประเทศไทย

องค์กรธุรกิจในประเทศไทยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ (1) นิติบุคคล (จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย) และ (2) ไม่เป็นนิติบุคคล (อาจต้องจดทะเบียนตาม พ.ร.บ. ทะเบียนพาณิชย์) ภายใต้การจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ยังมีการจัดจำแนกออกเป็น 4 ประเภท (1) ห้างหุ้นส่วน คือ องค์กรธุรกิจที่มีจำนวนบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปตกลงกันเพื่อดำเนินการธุรกิจ โดยตั้งแต่เริ่มต้นจะต้องมีข้อตกลงเกี่ยวกับการลงทุนร่วมกันในด้านต่าง ๆ เช่น เงิน (ไม่ต้องมีจำนวนเงินขั้นต่ำ), ทรัพย์สิน หรือแรงงาน เพื่อผลิตผลกำไรและการแบ่งปันผลกำไรตามสัดส่วนที่เห็นชอบ ห้างหุ้นส่วนที่เป็นนิติบุคคลจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทย่อยคือ (1.1) ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน หรือห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล เป็นรูปแบบที่ทุกหุ้นส่วนจะต้องมีการระบุชื่อผู้ถือหุ้นส่วนอย่างชัดเจนและจะถือหุ้นส่วนที่ “ไม่จำกัดความรับผิดชอบ” ซึ่งหมายความว่าผู้ถือหุ้นส่วนทุกคนต้องรับผิดชอบในข้อกำหนดของหนี้สินที่เกิดขึ้นโดยไม่มีจำกัดจำนวน ตัวอย่างเช่นถ้าห้างหุ้นส่วนมีหนี้สินจากการดำเนินธุรกิจเกิดขึ้น ผู้ถือหุ้นส่วนทุกคนต้องรับผิดร่วมกันในหนี้สินทั้งหมดโดยไม่มีขีดจำกัด (1.2) ห้างหุ้นส่วนจำกัด ประกอบด้วยหุ้นส่วน 2 ประเภท ได้แก่ หุ้นส่วนประเภท “จำกัดความรับผิดชอบ” โดยที่การลงทุนจะต้องเป็นเงินหรือทรัพย์สินเท่านั้น และผู้ถือหุ้นประเภทนี้จะไม่มีสิทธิ์ในการบริหารงานหรือการตัดสินใจในกิจการ แต่มีสิทธิ์ในการให้ความเห็น สอบถามหรือให้คำปรึกษา และหุ้นส่วนประเภท… Continue reading ประเภทขององค์กรธุรกิจในประเทศไทย

ปัญหาการใช้AI ในวงการศิลปะ

ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ในประเทศไทยคงเห็นได้ชัดสำหรับคนที่อยู่ในวงการศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นนักวาด นักเขียน หรือผู้เสพผลงานต่างก็อาจเคยผ่านตากับการนำผลงานไปใช้ต่อโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน ทั้งนี้สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้ก็คือการขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ แต่เมื่อเกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้น หากมองในอีกมุมหนึ่งก็เป็นเสมือนกรณีตัวอย่างในการให้ความรู้แก่คนทั่วไปด้วยเช่นกัน ทำให้ในช่วงหลายปีถัดมาก็เริ่มมีกลุ่มคนที่เข้าใจในเรื่องของลิขสิทธิ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ในยุคสมัยปัจจุบันที่เริ่มมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาผนวกในชีวิตประจำวันหรือกิจกรรมต่างๆ กลับทำให้ศัตรูที่น่ากลัวอีกอย่างของผู้สร้างสรรค์ผลงานก็คือ AI นั่นเอง คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการกลับมาของ AI ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม โดย AI ไม่ได้เป็นที่นิยมเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้งาน Chatbot หรือผู้พัฒนา Algorithm บน Social Media เท่านั้น ความนิยมในการใช้ AI ยังเห็นได้ชัดในวงการศิลปะเช่นกัน ด้วยการพัฒนาโปรแกรม AI ขึ้นมามากมายของผู้พัฒนาให้ทันกับความนิยมที่กำลังเพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทำให้ในปัจจุบันเราสามารถเลือกสรรการใช้ AI ได้ในหลายกิจกรรมเลยทีเดียว โดยเฉพาะการสร้างสรรค์ภาพจากแค่การป้อนข้อมูลหรือ Keyword เข้าไปเพียงเท่านั้น ความนิยมในส่วนนี้ก่อให้เกิดเทรนด์ในการนำ AI มาใช้กับงานศิลปะอย่างเห็นได้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแนวคิดหลักของ AI นั้นคือการเป็นสมองกลอัจฉริยะที่สามารถเรียนรู้ชุดข้อมูลที่ผู้พัฒนาป้อนให้และสร้างข้อมูลใหม่ขึ้นมาจากการเรียนรู้นั้น และยังมีจุดที่คล้ายกับสมองของมนุษย์คือเมื่อ AI ได้เรียนรู้จากชุดข้อมูลปริมาณมากขึ้น มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ความรู้ความเข้าใจของ AI และคุณภาพในการสร้างข้อมูลใหม่ก็พัฒนาตามขึ้นไปด้วยอีกเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้ AI อย่างมีคุณภาพมากที่สุด… Continue reading ปัญหาการใช้AI ในวงการศิลปะ

Contact
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
สอบถามทางโทรศัพท์
+66 2 677 7270-5
10th Floor, Q. House Lumpini Building,
No. 1 South Sathorn Road, Tungmahamek, Sathorn, Bangkok 10120, Thailand